เที่ยววัดไทยสวยๆ แนะนำโดยเหล่าบล็อกเกอร์นักเที่ยวกับ 10 วัดที่สวยที่สุดในประเทศไทย ที่มีเอกลักษณ์ความงาม และบรรยากาศที่ชวนให้ต้องไปกราบไหว้สักการะสักครั้งในชีวิต มาออกเดินทางไปทั้ง 10 วัดกันเลยดีกว่า
แนะนำโดยคุณริน เจ้าของบล็อก RinsaYoyo Live และแฟนเพจ RinSa YoyoLive Travel Blogger
ขอบคุณภาพจาก RinsaYoyo Live
วัดนันตาราม เดิมเรียกว่า วัดจองคำ เพราะมุงด้วยหญ้าคา (คำว่า จอง เป็นภาษาไทยใหญ่ หมายถึงวัด) สร้างด้วยไม้สักทอง โดยว่าจ้างชาวไทยใหญ่มาออกแบบและทำการก่อสร้างเป็นวิหารไม้ทั้งหลัง รูปทรงแบบไทยใหญ่ หลังคาหน้าจั่วยกเป็นช่อชั้น ลดหลั่นกันสวยงามมุงด้วยแป้นเกร็ด โดยมีอายุมากกว่า 92 ปี และเป็นหนึ่งในวัดที่น่าเที่ยวและอันซีนของจังหวัดพะเยาด้วยค่ะ
ความโดดเด่นและความสวยงามที่เห็นได้ชัดของวัดนันตารามคือ วิหารไม้สักทองทั้งหลังที่ประกอบด้วยไม้ฉลุและแกะสลักลาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะสมัยไทยใหญ่ เพดานประดับประดาด้วยกระจกสีลวดลายวิจิตรพิสดาร ไม้ซ้ำกัน พระประธานในวิหารปัจจุบันเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากไม้สักทอง ทั้งต้น ลงลักปิดทอง ทรงเครื่องแบบไทยใหญ่ สวยงามมาก
อยากให้ได้ไปสัมผัสกับเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากๆ ของโครงสร้างหลังคาหน้าจั่วยกเป็นช่อชั้น ของวัดนันตารามค่ะ ซึ่งเกิดมาจากช่างที่มีฝีมือสร้างขึ้นเป็นเอกลักษณ์ของวัด ทำให้ผู้ที่เดินทางมากราบไหว้สักการะ ต่างต้องเข้ามาดูศิลปะของวัดนี้กันอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งกราบไหว้พระประธานในศาลา ที่เป็นศิลปะจากพม่าด้วยเช่นกันค่ะ
แนะนำโดยคุณต้น เจ้าของเว็บไซต์ TravelGuruThailand.net และแฟนเพจ Travel Guru Thailand
ขอบคุณภาพจาก TravelGuruThailand.net
ตัววัดป่าละหานทรายเป็นวัดป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เกจิอาจารย์ชื่อดัง โดยวัดนี้ลูกศิษย์ของท่านได้สร้างขึ้นมา เพื่อบูชาและเฉลิมฉลองในวโรกาสที่ในหลวงครองราชย์ครบ 60 ปี ตัวความสำคัญของที่นี่ คือมีพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากศรีลังกาอยู่ในวิหารพุทธร่มโพธิ์ ซึ่งเป็นวิหารที่อยู่บริเวณด้านหน้าของตัววัด และยังมีวิหารกลางน้ำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกเขียวขนาดหน้าตัก 60 นิ้วอยู่ด้วย
จุดเด่นความสวยงามของวัดแห่งนี้ อยู่ที่วิหารกลางน้ำ ซึ่งสร้างขึ้นด้วยไม้สักทั้งหลังและสร้างอยู่บนกลางน้ำ เมื่อเดินเข้าไปจะเห็นวิหารลอยเด่นเหนือน้ำสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีอีกส่วนที่เป็นโบสถ์ ซึ่งมีความพิเศษอยู่ตรงที่ โบสถ์ของที่นี่เป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมเหมือนโบสถ์คริสต์ มีความงามไม่แพ้วิหารกลางน้ำ ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับวิหารกลางน้ำครับ
จริงๆ แล้วในจังหวัดบุรีรัมย์ จะมีวัดน่าเที่ยวอยู่ค่อนข้างเยอะ แต่วัดนี้เป็นสายวัดป่า ถ้าหากใครที่เป็นศิษย์หลวงปู่มั่นด้วยแล้ว ก็ไม่อยากให้พลาดจริงๆ เพราะเป็นวัดของศิษย์เอกหลวงปู่มั่นเลย และวัดนี้กำลังมีการก่อสร้างต่อเติมเพิ่มด้วย ใครที่สนใจก็อยากให้ลองไปร่วมทำบุญดู เพราะการสร้างวัดนั้นได้กุศลแรงมากครับ
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จ.อุบลราชธานี
แนะนำโดยคุณแซงค์ เจ้าของเว็บไซต์ Chaicatawan.com และแฟนเพจชายคาตะวัน
ขอบคุณภาพจาก Chaicatawan.com
ความสำคัญของวัดนี้อยู่ที่ความสัมพันธ์ของบ้านพี่เมืองน้อง ลาว-ไทยครับ เพราะวัดนี้ก่อตั้งโดยพระอาจารย์บุญมาก ฐิติปัญโญ ชาวเมืองจำปาสัก สปป.ลาว ทำเลที่ตั้งอยู่ในอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับสปป.ลาว โดยศิลปะการออกแบบเป็นแบบล้านช้าง ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากวัดเชียงทองของเมืองหลวงพระบางอีกด้วย
จุดเด่นที่สวยที่สุดของวัดแห่งนี้คือ ประติมากรรมภาพต้นไม้เรืองแสงสีเขียวด้านหลังโบสถ์ ซึ่งสวยงามมาก เรียกว่าเป็นอันซีนเลยก็ว่าได้ เราจะมองเห็นต้นไม้เรืองแสงได้ในตอนมืด ยิ่งฟ้ามืดมาก ต้นไม้ก็จะเรืองแสงมาก นอกจากต้นไม้เรืองแสงแล้ว เรายังจะได้ชมหมู่ดาว ที่กระจายอยู่เต็มท้องฟ้าอีก เห็นแล้วงดงามสะดุดตาจริงๆ ต้นไม้เรืองแสงนี้ ผู้ออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่องอวตาร นอกจากนี้ โบสถ์ของวัดสิรินธร ยังเต็มไปด้วยศิลปะที่สวยงามทุกจุด ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และภายในโบสถ์ โดยเฉพาะพระประธาน งดงามมากๆ ครับ ด้านทำเลที่ตั้งของวัดก็ดีมาก ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ลมพัดเย็นสบาย ชมพระอาทิตย์ได้ทั้งขึ้นและตก สามารถมองเห็นแหล่งน้ำของเขื่อนสิรินธร นับว่าเป็นทัศนียภาพที่สวยงามจริงๆ
ทั้งความสวยงามของวัด ทำเลที่ตั้ง และศิลปะการออกแบบทำให้ผมประทับใจมากๆ ครับ เป็นวัดสวยๆ ในไทย ที่ผมอยากฝากถึงทุกคน ให้มาเยือน มากราบไหว้พระและชมโบสถ์เรืองแสงกันเยอะๆ ครับ
วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
แนะนำโดยคุณอิน เจ้าของเว็บไซต์ [2madames.com] (http://www.2madames.com/) และแฟนเพจ 2Madames.com เที่ยวและไลฟ์สไตส์แบบครอบครัว
ขอบคุณภาพจาก 2madames.com
ที่มาของชื่อวัดท่าซุงนั้นมาจากสมัยที่มีการล่องซุงทางน้ำ แพซุงมักจะพักแวะที่หน้าวัด แต่ชื่อเดิมของวัดชื่อว่า วัดจันทาราม ตั้งตามอดีตเจ้าอาวาสที่ชื่อ จันทร์ อดีตเจ้าอาวาสที่มีความสำคัญองค์อื่นๆ ได้แก่ หลวงปู่ใหญ่, หลวงปู่เล่ง, หลวงพ่อไล้ และหลวงปู่ขนมจีน สำหรับหลวงปู่ใหญ่ และหลวงปู่ขนมจีน พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานจึงได้สร้างรูปเหมือน และสร้างมณฑปไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้สักการบูชา เมื่อปี พ.ศ. 2511 พระครูสังฆรักษ์อรุณ อรุโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าซุง ได้นิมนต์พระเดชพระคุณหลวงพ่อมาจากวัดสะพาน จังหวัดชัยนาท มาช่วยในการบูรณปฏิสังขรณ์
ที่นี่สวยงามมากครับ ภายในประดับด้วยโมเสกสีขาวและกระจกวิบวับไปทั่วทั้งหลัง ด้านหนึ่งประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธานและพระอรหันต์อีก 7 องค์ ด้านบนเพดานของวิหารประดับด้วยช่อไฟระย้าทั้งขนาดเล็กและใหญ่รวมกว่า 119 ช่อ เป็นวัดที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์
ด้วยลักษณะของโมเสกสีขาวและกระจกที่ใช้ประดับทั่วทั้งวิหารทำให้ภาพที่ เห็นตรงหน้าเป็นภาพสะท้อนไปมาเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุดอย่างไรอย่างนั้น ทันทีที่เราก้าวเท้าเข้าไปภายในวิหารแก้วเราก็สัมผัสได้ถึงความงดงามอลังการ ของการตกแต่งที่ตระการตามากๆ อีกทั้งบรรยากาศที่เงียบสงบและเย็นสบายของวิหารแห่งนี้ก็ทำให้จิตเราสงบขึ้น อย่างบอกไม่ถูก
แนะนำโดยคุณวิชิต เจ้าของบล็อก Wicsir
ขอบคุณภาพจากบล็อก Wicsir
วัดนี้มีความสำคัญที่เป็นวัดซึ่งสร้างขึ้นในอุทยาน เป็นวัดที่เริ่มต้นด้วยไอเดียที่จะรักษาป่า รักษาวัด โดยเริ่มแรกได้มีการขอที่จากป่าไม้ และมีเงื่อนไขว่า วัดต้องอยู่กับป่าให้ได้ ถ้าใครได้ไป จะรู้สึกได้ว่า เหมือนไปอยู่กับป่าอยู่ในอุทยาน กลมกลืนกับธรรมชาติได้ดีทีเดียว วัดแห่งนี้จึงตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม
สถาปัตยกรรมของวัดมีความโดดเด่นสวยงามด้วยตัววิหารสีเขียว ซึ่งสร้างได้วิจิตรพิสดารมาก เป็นที่ประดิษฐานของพระนอนหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นไฮไลท์ของวัดที่ต้องไปชม จัดเป็นหนึ่งในวัดที่วัดที่สวยที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้
อยากจะแนะนำให้ลองไปกันดูครับ นอกจากไปไหว้พระแล้ว บรรยากาศรอบๆบริเวณวัดยังดีมากๆ อีกด้วย เหมาะสำหรับไปเดินออกกำลังกาย และดื่มด่ำกับธรรมชาติ หรือหากมีเวลาหน่อยจะไปปฎิบัติธรรมเลยก็ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะมากครับ
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์
แนะนำโดยคุณเอก เจ้าของบล็อก ม่วงมหากาฬ และแฟนเพจ ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL
ขอบคุณภาพจากบล็อกม่วงมหากาฬ
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วอยู่ที่หมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เดิมทีถูกสร้างเพื่อเป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป ชื่อวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วนี้ ได้มาจากเหตุการณ์ในอดีตที่มีชาวบ้านหลายคนมองเห็นลูกแก้วลอยหายไปในถ้ำบนยอดผา เชื่อกันว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา ชาวบ้านจึงได้เรียกผานี้ว่าผาซ่อนแก้ว และเรียกพุทธสถานนี้ว่า พุทธรรมสถานผาซ่อนแก้ว และได้จัดตั้งเป็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วในที่สุด
จุดเด่นที่งดงามเรียกได้ว่าสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนเป็นอันมาก คือตัววัดนั้นตั้งอยู่บนเขาที่มีธรรมชาติอันสวยงามโอบล้อม และด้วยที่ตั้งท่ามกลางธรรมชาติเช่นนี้ ทำให้เกิดความสงบและสมาธิแก่ผู้ที่มาศึกษาและปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ ยังมีเจดีย์พระธาตุผาแก้วที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องและหินสีต่างๆ ที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก เมื่อครั้งผมไปเยือนนั้น ย่างก้าวแรกสัมผัสได้ถึงความสงบของพุทธสถาน และจากนั้นจึงได้ชมความงดงามของเจดีย์และบริเวณโดยรอบ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเจดีย์พระธาตุผาแก้วนี้เป็นเจดีย์ที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย อีกทั้งยังมองเห็นวิวทิวทัศน์สวยๆ โดยรอบได้อีกด้วยครับ
สำหรับประสบการณ์ที่อยากจะมาแชร์หลังจากที่ได้ไปเยือนวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วมาแล้วนั้น อย่างแรกเลยคือความสงบเงียบของสถานที่ครับ ที่นี่เป็นสถานที่ที่สงบมากๆ เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิและปฏิบัติธรรม ผมอยากให้พุทธศาสนิกชนทุกๆ คนและนักท่องเที่ยวทุกๆ คนช่วยกันรักษาความสงบเมื่อไปเยือนที่นี่ และช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยครับ จากที่บอกว่าบริเวณโดยรอบนั้นเป็นธรรมชาติที่งดงามเป็นอย่างมาก อยากจะให้ทุกๆ คนช่วยกันดูแลรักษาเพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมด้วยแรงแห่งศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทุกคนครับ
แนะนำโดยคุณนุ้ย เจ้าของเว็บไซต์ MyLifeMyTravels.com และแฟนเพจ My Life My Travels
ขอบคุณภาพจาก MyLifeMyTravels.com
จุดเริ่มต้นของวัดนี้มาจากพระรูปเดียวคือ ครูบาน้อย ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งวัดนี้ เป็นผู้ทำทุกอย่างในวัดนี้เพียงลำพัง จนถึงทุกวันนี้ ครูบาน้อยก็ยังคงเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่นี่
จุดเด่นของวัดนี้อยู่ที่การรวบรวมศิลปะแบบล้านนาประยุกต์จากหลายๆ ที่มารวมอยู่ในวัดแห่งนี้ โดยทางวัดได้มีการรวบรวมช่างที่มีชื่อเสียงจากจังหวัดโน้นบ้างจังหวัดนี้บ้าง มาเพื่อสร้างศิลปะและสถาปัตยกรรม เช่น ประตูสร้างโดยช่างจากเชียงใหม่ หน้าต่างสร้างโดยช่างจากลำปาง เรียกได้ว่า เป็นแหล่งรวมผลงานจากช่างฝีมือหลากหลายที่ จุดที่พิเศษที่สุดของวัดอยู่ที่พระธาตุบารมี 30 ทัศน์ เป็นเจดีย์ทรงล้านนา 30 องค์ ที่มีความสวยงามและศักดิ์สิทธิ์มาก ที่ตั้งของวัดอยู่บนถนนสายแพร่-ลำปาง เรียกว่าตั้งเด่นตระหง่านสะดุดตาจนต้องเลี้ยวรถเข้าไปชมเลยทีเดียวค่ะ
อยากให้ได้ไปเที่ยววัดนี้ค่ะ ไปดูศิลปะสถาปัตยกรรมของวัดนี้นะคะ เพราะมาจากหลากหลายที่จริงๆ ยิ่งคนที่ชอบถ่ายรูปด้วยแล้ว รับรองจะต้องชอบมาก ได้รูปวัดสวยๆ เยอะแน่ๆ เพราะแต่ละจุดจะมีความงามแตกต่างกันไป ทุกๆ จุดเลย ไม่ว่าจะเป็นเสา ฝาผนัง หรือแม้แต่ในตัววัดเอง จะเป็นลายแกะสลักทั้งหมดเลย และตัวพระธาตุบารมี 30 ทัศน์ก็สวยงามมากจริงๆ และมีความขลังมากด้วย ตอนไปมาสัมผัสได้เลยว่าวัดนี้มีอะไรๆ มีความศักดิ์สิทธิ์ สัมผัสได้ถึงความสงบ ความเยือกเย็น พูดภาษาบ้านๆ ได้ว่า วัดนี้มีของ
วัดไชยธาราม จ.ภูเก็ต
แนะนำโดยคุณยุทธ เจ้าของเว็บไซต์ Yutphuke.com
ขอบคุณภาพจาก Yutphuke.com
วัดไชยธารามหรือวัดฉลองภูเก็ต เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต ที่มีผู้คนหลั่งไหลมาสักการะหลวงพ่อแช่ม ซึ่งเป็นพระที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวภูเก็ต ในสมัยก่อนช่วงที่มีอั้งยี่ หลวงพ่อแช่มจะเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในการต่อสู้กับอั้งยี่ โดยปลุกเสกผ้ายันต์เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ชาวบ้าน จึงนับว่า ที่นี่เป็นวัดที่มีความเป็นมายาวนานคู่เมืองภูเก็ตครับ
จุดเด่นความสวยงามของวัดนี้คงเป็นที่วิหารหลวงพ่อแช่มและกุฏิจำลองหลวงพ่อแช่มครับ โดยจะมีหุ่นขี้ผึ้งจำลองของหลวงพ่อ ให้ผู้คนสามารถเข้าไปไหว้สักการะได้ ส่วนตัวบริเวณวัดมีพระธาตุของพระพุทธเจ้า เรียกว่า พระมหาเจดีย์พระจอมไทยบารมี สร้างเพื่อประดิษฐานพระธาตุของพระพุทธเจ้า และเพื่อให้คนทั่วไปได้มาสักการบูชา ซึ่งสถาปัตยกรรมของวัดมีความสวยงามไม่แพ้ที่ใด
ถ้าใครไปภูเก็ตผมก็อยากแนะนำให้ลองไปเยือนวัดที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวภูเก็ตดู ไปสักการะบูชาหลวงพ่อแช่ม เที่ยวชมวัด กราบไหว้สิ่งศักสิทธิ์ และขอพรกันครับ
วัดทุ่งเศรษฐี จ.ขอนแก่น
แนะนำโดยคุณเจิน เจ้าของเว็บไซต์ Bloggertrip.com และแฟนเพจ I am Devil ยัยตัวร้าย
ขอบคุณภาพจาก Bloggertrip.com
วัดนี้มีหลวงตาอ๋อย หรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงตาอ๋อยย่ามแดง” เป็นผู้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาค่ะ หลวงตาได้เดินทางไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาทั่วแดนอีสานเป็นเวลานาน และก็ได้เดินทางกลับมายังบ้านเกิดตัวเอง จากนั้นได้นิมิตถึง 3 โลกธาตุ จึงได้สร้างวัดนี้ขึ้นเป็น เป็นเหมือนแผ่นดิน 3 โลก คือ โลกสวรรค์ โลกมนุษย์ และโลกบาดาล โดยจะแบ่งแต่ละจุดเป็นสามโลก ในส่วนของโลกบาดาลหรือนรกนั้น จะมีบอกด้วยว่าผิดศีลข้อไหนจะเป็นอย่างไร และจะต้องไปอยู่ในภพภูมิไหน ผ่านรูปั้นจำลองต่างๆ
จุดเด่นด้านความสวยงามของวัดนี้คือ พระมหาเจดีย์ของวัดค่ะ เพราะแต่ละโดมแต่ละยอดที่สร้างขึ้นมานั้น มันมีความหมายซ่อนอยู่ บริเวณส่วนหัวที่เป็นเจดีย์รูปดอกบัวจะมีบอกความหมายด้วยว่าคืออะไร จุดเด่นของที่นี่จึงเป็นที่เจดีย์ ซึ่งบอกเลยว่ามีความสวยงามจริงๆ
คนส่วนใหญ่อาจยังไม่ค่อยรู้จักวัดนี้เท่าไหร่นัก อยากให้ลองไปเที่ยวดูนะคะ เป็นวัดไทยสวยๆ ที่น่าเที่ยวมากจริงๆ สามารถไปเดินชมเรื่องเล่าเกี่ยวกับ 3 โลก จะได้ศึกษาเรื่องของศีลไปด้วยว่า เรียกว่า นอกจากความสวยงามของตัววัดและบริเวณโดยรอบแล้ว วัดนี้ยังเป็นวัดที่บอกเล่าถึงความดีความชั่วได้ดีทีเดียวค่ะ
วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย
แนะนำโดยคุณเจิน เจ้าของเว็บไซต์ Bloggertrip.com และแฟนเพจ I am Devil ยัยตัวร้าย
ขอบคุณภาพจาก Bloggertrip.com
วัดแห่งนี้สร้างโดยพระอาจารย์พบโชค ท่านเก่งเรื่องโหราศาสตร์ค่ะ ท่านได้สร้างเจดีย์ 9 ชั้น และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ที่มีความสูงถึง 79 เมตร คนส่วนมากที่เดินทางมาวัดแห่งนี้นิยมมาดูดวงกับพระอาจารย์ เป็นวัดที่ชาวเชียงรายให้ความเคารพศรัทธา และมีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาเยือน
ความสวยงามของวัดแห่งนี้ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยคือ มหาเจดีย์ 9 ชั้น ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมล้านนา บริเวณบันไดทางขึ้นมีมังกรคู่ตั้งตระหง่าน นอกจากนี้ยังมีพระธาตุจำลองประจำปีนักษัตรให้ได้สักการะบูชาและองค์เจ้าแม่กวนอิมสีขาวขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก ในยามค่ำคืนทางวัดจะมีการเปิดไฟที่ตัววิหารและเจดีย์ ทำให้วัดแห่งนี้สวยสะดุดตาแม้ในยามค่ำคืน
จากประสบการณ์ที่ได้ไปเยือนที่นี่ ถ้าหากใครได้มาเที่ยวเชียงรายต้องลองไปที่วัดแห่งนี้นะคะ เป็นอีกหนึ่งวัดสวยๆ ในไทย เป็นวัดใหม่ที่มีวิจิตรมากค่ะ และถ้าใครสักการบูชาเจ้าแม่กวนอิมอยู่แล้วก็สามารถมาไหว้ขอพรได้ที่วัดนี้ด้วยค่ะ
หน้าที่เข้าชม | 611,572 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 269,903 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |